RSS Feed

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

OSI



WIFI คืออะไร
ในปี 2003 เป็นต้นไปเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมาแรงแบบสุดๆ อย่างหนึ่งก็คือ WiFi ซึ่งคำถามแรกของผู้ที่ได้ยินคำนี้ ก็ต้องถามเป็นเสียงเดียวกันว่าแล้ว WiFi มันคืออะไรกันนะ ? รู้จักแต่คำว่าไวไฟ ที่เขียนท้ายรถบรรทุกน้ำมัน

จากอดีต
ก่อนที่เราจะมาพูดถึงว่า Wi-Fi มันคืออะไรนั้น เราลองมาทำความเข้าใจกัน เล็กๆน้อยเกี่ยวกับเรื่องระบบ Network สักนิด การที่ คอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง จะมาเชื่อมต่อกัน เพื่อประโยชน์ในการแชร์ ข้อมูลซึ่งกันและกัน หรือเอามาแชร์ Internet เพื่อใช้งาน แบบประมาณว่า ต่อ Internet เพียงแค่เครื่องเดียว เครื่องอื่นๆที่อยู่ในเครือข่ายก็สามารถใช้งาน Internet ได้ด้วย ซึ่งการต่อเชื่อม คอมพิวเตอร์ หลายๆเครื่องเข้าด้วยกันนี้ แต่เดิมนั้นเราจะใช้สาย Lan ต่อเข้ากับ Lan card ของเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องเพื่อจะเชื่อมเข้าหา ซึ่งการต่อแบบใช้สายนี้ มันมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก แต่จะยุ่งยากหน่อย ก็ตรงที่ในบ้านเรา หรือใน office ที่เราจะเชื่อมต่อนั้น จะต้องเรียกช่างมาเดินสาย Lan เหมือนกับเดินสายไฟ ภายในบ้าน ซึ่งมันก็วุ่นมากทีเดียว หากเป็นบ้านที่มีคนอยู่แล้ว ต้องมานั่งรื้อข้าวของ ให้วุ่นวายกันไปหมด

ถึงปัจจุบัน
เหมือนกับว่าพระเจ้าเห็นใจ ผู้รักเทคโนโลยี จึงทำให้มีผู้คิดค้นวิธีเชื่อมต่อ Lan แบบใหม่ขึ้นมา โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงสาย ให้มันวุ่นวาย แต่คราวนี้เราจะใช้คลื่นเชื่อมแทน ฟังแค่นี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหม .. ด้วยระบบเทคโนโลยี Lan ไร้สาย 802.11 จึงเกิดขึ้นมาบนโลกเบี้ยวๆใบนี้ โดยการพัฒนา จากสถาบันวิศวกรไฟฟ้า และ อิเลคโทรนิค หรือ Institute of Electrical and Electronics Engineering (IEEE) นั่นเอง เลยทำให้กลายเป็นศัพท์ใหม่ที่เห็นกันบ่อยๆว่า IEEE 802.11 ซึ่งก็ได้มีการพัฒนากันมาเรื่อยจาก 802.11 ธรรมดามาเป็น 802.11b 802.11a 802.11g ซึ่งมันจะต่างกัน เรื่องของความเร็วในการรับส่งข้อมูลเป็นหลัก ( เดี๋ยวค่อยมาเล่าต่ออีกทีว่ามันต่างกันอย่างไร )

WIFI คืออะไร

Wi-Fi ก็คือองค์กรหนึ่ง ที่ทดสอบผลิตภัณฑ์ Wireless Lan หรือระบบ Network แบบไร้สาย ภายใต้เทคโนโลยีการสื่อสาร ภายใต้มาตราฐาน IEEE 802.11 ว่าอุปกรณ์ทุกตัวซึ่งต่างยี่ห้อกันนั้นมันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่มีปัญหา หากว่าอุปกรณ์ตัวนั้นมันผ่านตามมาตราฐานเขาก็จะปั๊ม ตรา Wi-Fi certified ซึ่งเป็นอันรู้กันว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่มีตรา Wi-Fi certified นี้ได้เช่นกัน แต่ทำไปทำมามันกลายเป็นคำศัพท์สำหรับ อุปกรณ์ Lan ไร้สาย ไปโดยปริยาย จนบางคนก็เรียกกันติดปาก

เช่น Notebook ตัวนี้ หรือ PDA ตัวนี้มันมี Wi-Fi ด้วยหละ ! นั่นก็หมายความว่า อุปกรณ์ชิ้นนั้น มันสามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องตัวอื่นในระบบ Network แบบไร้สายได้ โดยอยู่ภายใต้ มาตราฐานเทคโนโลยี 802.11

Wiless lan

                                  วิธีการ Setup TU Wireless LAN (WLAN) หรือ LAN ไร้สาย


โดยปกติ LAN จะเป็นแบบมีสาย มีมาตรฐานอยู่ที่ 10 Mbps Ethernet หรือ 100Mbps Fast Ethernet ปัจจุบันมีถึงระดับ Gigabit Ethernet ข้อจำกัดของ LAN ธรรมดาก็คือ สภาวะแวดล้อมในบางลักษณ์ อาจจะทำให้ไม่สะดวกในการติดตั้ง เช่น ในห้องประชุม , Boot แสดงสินค้า หรือการจัดนิทรรศการ ดังนั้น เขาจึงต้องการอะไรก็ได้ที่คล้ายกับ LAN ธรรมดา ใช้งานเหมือนปกติ แต่ไม่มีสาย นั่นก็คือ Wireless LAN (WLAN) นั่นเอง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เหมือนกับอินเทอร์เน็ต หรือใช้เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกับอินเทอร์เน็ต สามารถเข้ากันได้กับระบบอินเทอร์เน็ตเดิม แต่ไม่ต้องใช้สายทองแดงในการเชื่อมต่อ ซึ่งมาตรฐานของ Wireless LAN เรียกว่า IEEE802.11b มีความเร็วสูงสุดตามมาตรฐานที่ 11 Mbps

WLAN ถูกกำหนดระยะทางไว้ตามมาตรฐาน IEEE802.11b ที่ 300 ฟุต ในที่โล่ง แต่เนื่องจากเป็นความถี่ในย่านไมโครเวฟ เพราะฉะนั้น เวลาวิ่งผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เช่น กำแพง ตู้ หรือโต๊ะทำงาน หรือแม้แต่ตัวคนเองก็จะมีผลกระทบทำให้สัญญาณลดทอนลงไป โดยเฉพาะตัวคนมีโมเลกุลของน้ำอยู่ภายในค่อนข้างมาก เมื่อมันวิ่งผ่านตัวคนสัญญาณก็จะจางลงไปเป็นอย่างมาก

WLAN ถูกกำหนดระยะทางไว้ตามมาตรฐาน IEEE802.11b ที่ 300 ฟุต ในที่โล่ง แต่เนื่องจากเป็นความถี่ในย่านไมโครเวฟ เพราะฉะนั้น เวลาวิ่งผ่านอุปสรรคต่างๆ เช่น กำแพง ตู้ หรือโต๊ะทำงาน หรือแม้แต่ตัวคนเองก็จะมีผลกระทบทำให้สัญญาณลดทอนลงไป โดยเฉพาะตัวคนมีโมเลกุลของน้ำอยู่ภายในค่อนข้างมาก เมื่อมันวิ่งผ่านตัวคนสัญญาณก็จะจางลงไปเป็นอย่างมาก

วันนี้ประชาคมธรรมศาสตร์จะได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ด้วย WLAN สองมาตรฐานด้วยกันคือ IEEE802.11b ความเร็วสูงสุดคือ 11 Mbps และ IEEE802.11g ความเร็วสูงสุดคือ 54 Mbps

วันนี้ประชาคมธรรมศาสตร์จะได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ด้วย WLAN สองมาตรฐานด้วยกันคือ IEEE802.11b ความเร็วสูงสุดที่ 11 Mbps และ IEEE802.11g ความเร็วสูงสุดคือ 54 Mbps



                                                         สำหรับผู้เริ่มต้นใช้ระบบ TU-WLAN

ความจริงก็คือว่า ไม่ว่าจะไปใช้งาน wlan ที่ไหนๆ ความรู้พื้นฐานเราต้องมีและต้องกระทำคือ ทำการสำรวจตรวจสอบความพร้อมทางด้าน Hardware กันก่อนดีกว่า ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา หรือนิยมเรียกกันว่า Notebook ของแต่ละคนนั้นมี wireless lan card ติดตั้งมากับเครื่องด้วยหรือไม่ ส่วนมากเลย Notebook ในยุคปัจจุบันจะติดตั้งมากับเครื่องที่เรียกว่า build-in กันแบบเสร็จสรรพ

วิธีการตรวจสอบ

ขออ้างอิงที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP

1. ที่ี่ My Computer ให้เรา Click mouse ปุ่มขวามือแล้วเลือก Propertie
2. เราก็จะได้ภาพ System Propertie
3. Click mouse ที่หัวข้อ Hardware
4. Click mouse ที่ Device Manager เราก็จะเห็น Hardware ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง ของเราเยอะแยะมากมาย ดังภาพ
5. ที่หัวข้อ Network Adapters ด้านซ้ายมือสุดจะเห็นเครื่องหมาย + ให้เรา click mouse ลงไป แล้วเราก็จะเห็นรายการของ Network Adapters ที่ถูกติดตั้งมาในเครื่องนี้



                                     สังเกตดังนี้นะคะครับ



* Wireless LAN Card เครื่องนี้ใช้ยี่ห้อ Intel รุ่น PRO/Wireless 2200BG คำว่า B,G คงรู้จักกันในช่วงแนะนำกันแล้วนะครับ ส่วนจะเป็นยี่ห้อไหน รุ่นอะไรก็สุดแล้วแต่ อาจจะเป็น B ตัวเดียว (โดยเฉพาะ Notebook รุ่นเก่าก็ใช้ได้)

** หากมีเครื่องหมาย หน้ารายการดังกล่าว แสดงว่า มันถูก Disable อยู่ ก็ให้ click mouse ปุ่มขวา แล้วเลือก Enable อุปกรณ์ดังกล่าวจะได้กลับมามีชีวิตใช้งานได้

*** หากมีเครื่องหมาย แสดงว่า Device Drivers ซึ่งหมายถึง Software ของอุปกรณ์ดังกล่าว ยังไม่ได้มีการติดตั้ง หรือติดตั้งผิดพลาด ข้อนี้คงต้องเกี่ยวกับ Admin หน่อยละครับ (รู้จัก Admin คนไหนก็ลองหิ้วเครื่องฯ ไปหาเขาดู) เมื่อเสร็จภาระกิจ ก็ปิดหน้าต่างที่เราเข้าไปทำงานด้วย แล้วกลับมาตั้งต้นที่ Background
6. ก่อนจะจบ Hardware ดูอีกนิดครับ เพราะ Notebook หลาย ๆ ยี่ห้อ ได้ทำสวิทช์โยกไว้ (จะเป็นหน้าด้าน หรือด้านข้างก็พลิกดูด้วยครับ เดี๋ยวจะไม่ทำงาน)
7. Click mouse ที่ปุ่ม Start, มาที่ Connect to แล้ว Click mouse ที่หัวข้อ Wireless Network Connection เพื่อผลลัพธ์ดังนี้
8. ที่ด้านบนสุดซ้ายมือ Click mouse ที่หัวข้อ General, ที่ด้านล่างซ้ายมือ Click mouse ที่หัวข้อ Properties
** หน้าต่างนี้ถือว่าสำคัญทีเดียวครับ เพราะจะต้องกำหนดวิธีการที่จะได้มาซึ่ง IP-Address หากข้ามขั้นตอนนี้ไปแล้วเดี๋ยวจะใช้งานไม่ได้**

9. ที่ Scroll Bar ด้านขวามือ ให้ Scroll Down ลงมาจนพบรายการ Internet Protocol ดังรูป
10. Double Click mouse ทับที่รายการ Internet Protocol (TCP/IP) อย่าทำให้ เครื่องหมาย หน้ารายการดังกล่าวหายไปเชียวนะครับ แล้วก็จะปรากฏภาพดังนี้
ภาพที่ปรากฏภายใต้หัวข้อ General เราจะกำหนดวิธีการได้มาซึ่ง IP-Address ซึ่งเป็นหัวใจในการใช้งานบน Internet ด้วยการ click mouse ที่หน้ารายการ Obtain an IP address automatically และ Obtain DNS server address automatically ตามลำดับ เสร็จแล้ว click mouse ที่ปุ่ม OK แล้วหน้าต่างนี้จะปิดแล้วกลับไปที่หน้าต่างก่อนหน้านี้คือ รูปในข้อ 9

* ต่อรูปที่ 9 กันอีกนิด กรุณา Check Box ในกรอบสี่เหลี่ยมด้านหน้าของสองบรรทัด ด้านล่างสุด ให้ปรากฏเครื่องหมาย เพื่อว่าต่อไปเราจะได้ทำงานแบบง่าย ๆ ที่ Task bar ด้านขวามือ โดยไม่ต้องเข้ามาหลายขั้นตอนอย่างนี้ก็ได้ (ไม่เลือกก็ไม่ว่ากัน)
11. กลับมาที่ภาพเดิม
              
               Click mouse ที่หัวข้อ View Wireless Networks ด้านล่างขวามือ จากนั้นเราก็จะเห็น Wireless Access Point ที่เราสามารถเชื่อมต่อเพื่อเข้าไปใช้งาน คำแนะนำคือ สังเกตดู ความแรงของสัญญาณที่ปรากฎอยู่บนจอภาพของเรา (คล้ายสัญญาณมือถือของเรานั่นแหละครับ ตัวไหนแรงที่สุดก็ให้เลือกที่ตัวนั้น ๆ แล้ว click mouse ที่ปุ่ม connect ด้านล่างขวามือ เป็นอันเสร็จพิธี
12. ทำการตรวจสอบความพร้อมในการเล่น Internet ก็ขอให้ดูภาพนี้



          ขอให้ท่านผู้ใช้งานมีความเพลิดเพลินกับการท่อง Internet แบบไม่จำกัดเวลาและสถานที่